หมูสะเต๊ะ แบบครบเซตครบเครื่อง ภาพสวยน่ากิน
สูตรหมูสะเต๊ะทำเองไม่ยาก พร้อมน้ำจิ้มสะเต๊ะรสเด็ด รสชาติไม่แพ้ร้านดัง

หมูสะเต๊ะสมัยนี้หากินแบบอร่อย ๆ ยากแล้วเนอะ
แถมไม้เล็กกระจิ๋วเดียวกินไม่จุใจ ลองทำกินเองกันไหม
ทำครั้งเดียวอิ่มไปทั้งครอบครัวเลย
แจกตั้งแต่วิธีหมักหมูไปจนครบถึงวิธีทำน้ำจิ้มและเคล็ดลับการย่างหมูด้วย

◆ เนื้อสะโพกหมู
◆กระเทียม 2 กำมือ (โขลก)
◆ผงขมิ้น 1/2 ทัพพีเล็ก (อย่าใส่ผงขมิ้นเยอะ
เพราะจะทำให้หมูมีรสเฝื่อน ๆ ได้ บางคนก็ไม่ใส่)
◆ผงยี่หร่า 1 ทัพพี
◆ผงกะหรี่ 2+1/2 ทัพพี (ผงกะหรี่อันนี้ขาดไม่ได้โดยเด็ดขาด
ถ้าเป็นขมิ้นกับยี่หร่า บางคนไม่ใส่ก็ได้ แต่ผงกะหรี่ห้ามขาด
ใส่ยิ่งเยอะยิ่งหอม)
◆น้ำตาลทราย 2 ทัพพี
◆เมล็ดผักชีโขลก 2 กำมือ
◆กะทิกล่องสำเร็จรูป
◆นมสด
◆ไม้สำหรับเสียบหมูสะเต๊ะ(ควรเลือกซื้อไม้ที่เสียบหมูสะเต๊ะโดยตรง
เพราะมันจะมีขนาดเล็กกว่าไม้เสียบลูกชิ้นอยู่หน่อยนึง ห่อละ 25 บาทเอง
หมูประมาณ 1 กิโลกรัม เสียบออกมาได้ 138 ไม้)
วิธีหมักหมูสะเต๊ะ
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้น ๆ
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ ใส่กระเทียมโขลกลงไป (ใส่เยอะ ๆ)
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ ตามด้วยผงขมิ้น ผงยี่หร่า ผงกะหรี่ น้ำตาลทราย เมล็ดผักชีโขลก กะทิ และนมสดเล็กน้อย
วิธีหมักหมูสะเต๊ะ

◆ หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้น ๆ

◆ ใส่กระเทียมโขลกลงไป (ใส่เยอะ ๆ)

◆ ตามด้วยผงขมิ้น ผงยี่หร่า ผงกะหรี่ น้ำตาลทราย เมล็ดผักชีโขลก กะทิ และนมสดเล็กน้อย
◆หมักให้มันนุ่ม ๆ ไม่ถึงกับแฉะ
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ เคล้าส่วนผสมให้เข้ากันแล้วหมักทิ้งไว้ครึ่งวัน
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ นำหมูที่หมักได้ที่แล้วมาเสียบไม้(ส่วนตัวไม่ชอบกินมันหมูเลยไม่ได้เสียบมาด้วย)
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ ก่อนปิ้งนำหมูไปชุบในน้ำกะทิให้ทั่ว
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ พอหมูเริ่มสุกให้ทากะทิซ้ำลงไปอีกครั้ง (เพื่อความนุ่มและไม่กระด้าง)
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ ปิ้งจนสุก จัดใส่จาน เตรียมไว้เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสะเต๊ะ และน้ำจิ้มอาจาด
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
สูตรน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
ส่วนผสม น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ
◆ กะทิสด 500 กรัม
◆ น้ำพริกแกงมัสมั่น 200 กรัม
◆ น้ำตาลปี๊บ 3 ทัพพี
◆ น้ำมะขามเปียก 4 ทัพพี
◆ เกลือป่นเล็กน้อย
◆ ถั่วลิสงคั่วป่น 5 ทัพพี
วิธีทำน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ แบ่งใส่หัวกะทิพอประมาณใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวพอร้อน
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ ใส่น้ำพริกแกงมัสมั่นลงไป จากนั้นเทกะทิที่เหลือลงไปทั้งหมด
หมายเหตุ : น้ำพริกแกงมัสมั่นใช้แค่ 2 ขีดก็พอ บางคนลดต้นทุนโดยใช้พริกแกงเผ็ดมาปนเยอะ ๆ ๆ เพราะน้ำพริกแกงมัสมั่นจะมีราคาแพงกว่าน้ำพริกแกงเผ็ด เพราะมีส่วนผสมของลูกจันทร์ด้วย แค่เฉพาะลูกจันทร์ (สีส้ม ๆ) จะมีราคาแพงมาก ราคากิโลกรัมละ 1,200 บาทเลยล่ะ
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ใส่ประมาณ 3 ทัพพีก่อน อย่าเพิ่งใส่เยอะในตอนแรก เดี๋ยวจะหวานเกิน หากยังไม่พอใจค่อยเติมทีหลังเอา
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ ตามด้วยน้ำมะขามเปียก(อย่าปรุงให้เปรี้ยวเกินไป เพราะน้ำจิ้มชนิดนี้ห้ามเปรี้ยว เวลากินแล้วรสหวานจะออกนำ แทบไม่ได้รสเปรี้ยวเลย)ตัดรสด้วยเกลือป่นเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน
◆ ต้องปรุงให้รสหวานนำ แต่ไม่ใช่หวานมาก ให้ความเปรี้ยวมีแค่ 0.1% พอ เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้รสเปรี้ยวเลย
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ สุดท้ายใส่ถั่วลิสงคั่วป่นลงไป คนผสมให้เข้ากัน (ใส่ประมาณ 5 ทัพพีก่อนนะ อย่าเพิ่งใส่เยอะ เพราะเดี๋ยวมันจะขึ้นอืดเองเวลาที่น้ำจิ้มเย็น หากยังไม่ข้นพอเราเติมภายหลังได้)
◆บางคนก็เห็นเขาใส่ขนมปังลงไปด้วย ขอบอกว่าวิธีนั้นเป็นการลดต้นทุนการใช้ถั่วลิสงป่น แต่น้ำจิ้มสะเต๊ะที่มีส่วนผสมของขนมปังจะเก็บไว้นาน ๆ ไม่ได้
![หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ]()
◆ เคี่ยวส่วนผสมจนเดือด ปิดไฟ เตรียมไว้
หมายเหตุ : น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ จะคล้าย ๆ กับน้ำของขนมจีนน้ำพริก เพียงแต่ขนมจีนน้ำพริกไม่ใส่น้ำพริกแกงมัสมั่น แต่ใส่พริกแห้งแช่น้ำแล้วคั้นเอาน้ำพริกมาผัดกับกะทิ และผัดกับน้ำมันเอาไว้ลอยหน้า
◆ น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะและขนมจีนน้ำพริกจะใส่น้ำมะขามเปียกเช่นเดียวกัน แต่ขนมจีนจะเพิ่มดีกรีความเปรี้ยวด้วยน้ำมะกรูด มะนาว และน้ำส้มซ่า แต่โดยรวมแล้ววิธีการจะคล้าย ๆ กัน แล้วน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะก็สามารถเอาไปทำเป็นเมนู พระรามลงสรง ก็ได้อีกด้วย ตัวน้ำจิ้มหากกินไม่หมดเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน

◆ เคล้าส่วนผสมให้เข้ากันแล้วหมักทิ้งไว้ครึ่งวัน

◆ นำหมูที่หมักได้ที่แล้วมาเสียบไม้(ส่วนตัวไม่ชอบกินมันหมูเลยไม่ได้เสียบมาด้วย)




◆ พอหมูเริ่มสุกให้ทากะทิซ้ำลงไปอีกครั้ง (เพื่อความนุ่มและไม่กระด้าง)


◆ ปิ้งจนสุก จัดใส่จาน เตรียมไว้เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสะเต๊ะ และน้ำจิ้มอาจาด

+++++++++++++++++++++
สูตรน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ

ส่วนผสม น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ
◆ กะทิสด 500 กรัม
◆ น้ำพริกแกงมัสมั่น 200 กรัม
◆ น้ำตาลปี๊บ 3 ทัพพี
◆ น้ำมะขามเปียก 4 ทัพพี
◆ เกลือป่นเล็กน้อย
◆ ถั่วลิสงคั่วป่น 5 ทัพพี
วิธีทำน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ

◆ แบ่งใส่หัวกะทิพอประมาณใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวพอร้อน

◆ ใส่น้ำพริกแกงมัสมั่นลงไป จากนั้นเทกะทิที่เหลือลงไปทั้งหมด
หมายเหตุ : น้ำพริกแกงมัสมั่นใช้แค่ 2 ขีดก็พอ บางคนลดต้นทุนโดยใช้พริกแกงเผ็ดมาปนเยอะ ๆ ๆ เพราะน้ำพริกแกงมัสมั่นจะมีราคาแพงกว่าน้ำพริกแกงเผ็ด เพราะมีส่วนผสมของลูกจันทร์ด้วย แค่เฉพาะลูกจันทร์ (สีส้ม ๆ) จะมีราคาแพงมาก ราคากิโลกรัมละ 1,200 บาทเลยล่ะ

◆ ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ใส่ประมาณ 3 ทัพพีก่อน อย่าเพิ่งใส่เยอะในตอนแรก เดี๋ยวจะหวานเกิน หากยังไม่พอใจค่อยเติมทีหลังเอา

◆ ตามด้วยน้ำมะขามเปียก(อย่าปรุงให้เปรี้ยวเกินไป เพราะน้ำจิ้มชนิดนี้ห้ามเปรี้ยว เวลากินแล้วรสหวานจะออกนำ แทบไม่ได้รสเปรี้ยวเลย)ตัดรสด้วยเกลือป่นเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน
◆ ต้องปรุงให้รสหวานนำ แต่ไม่ใช่หวานมาก ให้ความเปรี้ยวมีแค่ 0.1% พอ เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้รสเปรี้ยวเลย

◆ สุดท้ายใส่ถั่วลิสงคั่วป่นลงไป คนผสมให้เข้ากัน (ใส่ประมาณ 5 ทัพพีก่อนนะ อย่าเพิ่งใส่เยอะ เพราะเดี๋ยวมันจะขึ้นอืดเองเวลาที่น้ำจิ้มเย็น หากยังไม่ข้นพอเราเติมภายหลังได้)
◆บางคนก็เห็นเขาใส่ขนมปังลงไปด้วย ขอบอกว่าวิธีนั้นเป็นการลดต้นทุนการใช้ถั่วลิสงป่น แต่น้ำจิ้มสะเต๊ะที่มีส่วนผสมของขนมปังจะเก็บไว้นาน ๆ ไม่ได้

◆ เคี่ยวส่วนผสมจนเดือด ปิดไฟ เตรียมไว้
หมายเหตุ : น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ จะคล้าย ๆ กับน้ำของขนมจีนน้ำพริก เพียงแต่ขนมจีนน้ำพริกไม่ใส่น้ำพริกแกงมัสมั่น แต่ใส่พริกแห้งแช่น้ำแล้วคั้นเอาน้ำพริกมาผัดกับกะทิ และผัดกับน้ำมันเอาไว้ลอยหน้า
◆ น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะและขนมจีนน้ำพริกจะใส่น้ำมะขามเปียกเช่นเดียวกัน แต่ขนมจีนจะเพิ่มดีกรีความเปรี้ยวด้วยน้ำมะกรูด มะนาว และน้ำส้มซ่า แต่โดยรวมแล้ววิธีการจะคล้าย ๆ กัน แล้วน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะก็สามารถเอาไปทำเป็นเมนู พระรามลงสรง ก็ได้อีกด้วย ตัวน้ำจิ้มหากกินไม่หมดเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน
++++++++++++++++++++
◆ น้ำส้มสายชู 4 ส่วน
◆ น้ำตาลทราย 3.5 ส่วน
◆ เกลือ 1/2 ส่วน
◆ น้ำเปล่าเล็กน้อย (เพื่อเบรคความเปรี้ยวของน้ำส้มสายชู)
◆ แตงกวาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
◆ พริกแดงซอย
◆ หอมแดงซอย
วิธีทำน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ น้ำจิ้มอาจาด

◆ เติมส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเปล่าเล็กน้อยใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวพอมีความหนืดนิด ๆ (ชิมรสให้ได้ เปรี้ยวนำ หวานตามมาติด ๆ เค็มท้าย ๆ เลยนะ) จากนั้นพักทิ้งไว้จนเย็น

◆ ผสมแตงกวาซอย พริกแดงซอย และหอมแดงซอยเข้าด้วยกันแล้วนำลงไปแช่ในน้ำอาจาดที่เย็นแล้ว เตรียมไว้ (หากยังไม่กินก็ไม่ต้องแช่ทิ้งไว้ก็ได้ แต่เราว่าน้ำจิ้มอาจาดจะอร่อยต้องแช่แตงกวาทิ้งไว้นาน ๆ ให้มันเข้าเนื้อ)



แค่เห็นภาพก็น้ำลายไหลตามแล้ว มาครบเซตซะขนาดนี้ เห็นทีต้องร้องเรียกแม่มาช่วยกันทำแล้วล่ะ
คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
คุณกำลังดู: หมูสะเต๊ะ แบบครบเซตครบเครื่อง ภาพสวยน่ากิน
หมวดหมู่: อาหารอื่นๆ
แชร์ข่าว