ขนมวันแม่ บอกรักแม่ด้วย 9 สูตรขนมไทยโบราณแสนอร่อย
วันนี้เรามีสูตรขนมไทยโบราณอร่อย ๆ มาฝากทั้ง 9 เมนู ไว้ทำเพื่อบอกรักคุณแม่ มาฝากกันค่ะ

ใกล้จะถึงวันแม่แห่งชาติ12 สิงหาคม
เข้าไปทุกที ๆ แล้ว ลูก ๆ
คนไหนยังไม่ได้เตรียมของขวัญวันแม่สุดพิเศษให้คุณแม่บ้างเอ่ย
ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรดี
ลองเปลี่ยนจากของขวัญที่เป็นข้าวของเครื่องใช้
มาเป็นขนมไทยโบราณจากฝีมือตัวเอง น่าจะดีไม่น้อย และเชื่อว่า
คงจะมีคุณแม่จำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบขนมไทยโบราณเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ยิ่งถ้าคุณแม่ได้กินขนมไทยฝีมือลูก ๆ ด้วยแล้วละก็
คงจะปลื้มปริ่มไม่น้อยเลยล่ะ

กระปุกดอทคอม ก็ได้รวบรวม 9 สูตรขนมไทยโบราณมาฝากไว้ตรงนี้แล้ว ใครสนใจทำเมนูไหนไปบอกรักคุณแม่ก็เชิญเลือกได้ตามสบายเลยจ้า
1. ขนมช่อมะลิซ้อนไส้กุ้ง
เริ่มกันด้วยเมนูขนมไทยโบราณอย่าง ช่อมะลิซ้อนไส้กุ้ง ที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกับดอกมะลิบาน ๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของวันแม่ รับรองว่าคุณแม่ต้องประทับใจแน่ ๆ ลองมาดูวิธีทำขนมช่อมะลิซ้อนไส้กุ้งกันเลยดีกว่า เป็นสูตรมาจากคุณคุ้มข้าวกล้อง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

•แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
•แป้งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
•แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
•กุ้งสดสับ
•รากผักชี กระเทียม และพริกไทย โขลกเข้าด้วยกัน
•หัวหอมใหญ่
•น้ำกะทิ
•น้ำมันพืช
•น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย
•เครื่องปรุงรส
วิธีทำ
1. ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งเท้ายายม่อม และแป้งมันลงในภาชนะที่มีฝาปิด แล้วอบควันเทียนเอาไว้ พอควันหมดก็จุดใหม่ ทำซ้ำ 2-3 รอบ
2. ผัดที่โขลกไว้ให้หอม ใส่หัวหอมใหญ่สับลงไปผัดจนเหลือง
ใส่กุ้งสับลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว และพริกไทย
ผัดจนส่วนผสมแห้งเล็กน้อย จนสามารถปั้นหรือจับตัวเป็นก้อนได้
พักไว้
3. ผสมแป้งอบควันเทียนกับน้ำลอยดอกมะลิให้ละลายเข้ากัน
กรองด้วยผ้าขาวบาง นำไปกวนในกระทะ ใช้ไฟอ่อน จนเริ่มแห้ง
และล่อนออกจากหม้อ ยกลงจากเตา นำออกมานวดต่ออีกสักพัก
4. แบ่งแป้งเป็นลูกกลม ๆ ขนาดเท่า ๆ กัน
จากนั้นแผ่แป้งเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วใช้มือคลึงให้เป็นรูปหม้อขึ้นมา
ตักไส้กุ้งที่เตรียมไว้ใส่ตรงกลางแป้ง ห่อให้มิด คลึงเป็นลูกกลม
ใช้แหนบทองเหลืองหัวแบนจีบรอบ ๆ ขนม เพื่อขึ้นรูปดอกมะลิ
5. ทาน้ำมันที่ขนมเล็กน้อย นำไปนึ่ง ใช้ไฟแรง ไม่เกิน 10 นาที
จนขนมเริ่มสุก ใส และนิ่ม ยกลงจากเตา จัดใส่จาน ราดกะทิ
โรยกระเทียมเจียว พร้อมเสิร์ฟ
ส่วนผสม
น้ำกะทิ
•กะทิกระป๋อง 4 ถ้วยตวง
•น้ำตาลทราย 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วยตวง
•เกลือป่น 1 ช้อนชา
•เทียนสำหรับอบขนม
ส่วนผสม ตัวขนมอินทนิล
•แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วย
•น้ำใบเตย 4 ถ้วย
วิธีทำขนมอินทนิล
1. ทำน้ำกะทิอบควันเทียน โดยเทน้ำกะทิใส่ลงอ่าง จุดเทียนอบขนมให้ไฟลามถึงตรงขี้ผึ้งแล้วดับเทียน ใส่เทียนลงในถ้วยเล็ก ๆ แล้วใส่ลงในอ่างน้ำกะทิ ปิดฝา อบน้ำกะทิไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจุดเทียนอบซ้ำอีก 1-2 ครั้ง ถ้ามีดอกกระดังงาก็เอาไปอบพร้อมเทียนเลย จากนั้นนำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่น คนผสมให้ละลาย รอจนเดือดแล้วยกลง เตรียมไว้
2. ทำตัวขนม โดยผสมแป้งกับน้ำใบเตย คนให้แป้งละลายเข้ากับน้ำใบเตย นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ใช้พายกวนตลอด ระวังอย่าให้ก้นหม้อไหม้ กวนจนขนมสุก ตัวแป้งจะเหนียวและใส พอแป้งสุกทั่วกัน เอาหม้อลงแช่ในอ่างน้ำแข็ง ใช้นิ้วเปียก ๆ หยิบขนมขนาดพอดีคำ แล้วหย่อนลงในน้ำกะทิที่เตรียมไว้ ตักขนมใส่ถ้วย ใส่น้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ
ส่วนผสม
กล้วยไข่เชื่อม
•กล้วยไข่ห่าม ๆ 2 หวี
•น้ำตาลทรายขาว 450 กรัม
•น้ำสะอาด 400 กรัม
•หัวกะทิ 2 ถ้วย
•แป้งอเนกประสงค์ 1.5 ช้อนโต๊ะ
•เกลือป่น หยิบมือ
วิธีทำกล้วยไข่เชื่อม
1. ทำหัวกะทิสำหรับราดหน้า โดยใส่หัวกะทิลงในหม้อ ใส่เกลือป่นนิดหน่อย นำไปตั้งไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ จนกว่ากะทิจะข้น ยกลงจากเตา เตรียมไว้
+++++++++++++++++++++
2. ขนมอินทนิล
อีกหนึ่งขนมไทยโบราณที่หากินยากมาก ๆ แล้วในปัจจุบัน แต่เชื่อว่าคุณแม่หลาย ๆ คนคงจะรู้จัก ขนมอินทนิล แป้งเหนียว ๆ กินคู่กับน้ำกะทิหอม ๆ ใส่น้ำแข็งลงไปอีกสักนิด ฟินกันทั้งแม่ทั้งลูกเลยจ้า ว่าแต่มีวิธีทำขนมอินทนิลอย่างไร ตามมาดูกันสูตรจากคุณ lennon forever
อีกหนึ่งขนมไทยโบราณที่หากินยากมาก ๆ แล้วในปัจจุบัน แต่เชื่อว่าคุณแม่หลาย ๆ คนคงจะรู้จัก ขนมอินทนิล แป้งเหนียว ๆ กินคู่กับน้ำกะทิหอม ๆ ใส่น้ำแข็งลงไปอีกสักนิด ฟินกันทั้งแม่ทั้งลูกเลยจ้า ว่าแต่มีวิธีทำขนมอินทนิลอย่างไร ตามมาดูกันสูตรจากคุณ lennon forever

•กะทิกระป๋อง 4 ถ้วยตวง
•น้ำตาลทราย 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วยตวง
•เกลือป่น 1 ช้อนชา
•เทียนสำหรับอบขนม
ส่วนผสม ตัวขนมอินทนิล
•แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วย
•น้ำใบเตย 4 ถ้วย
วิธีทำขนมอินทนิล
1. ทำน้ำกะทิอบควันเทียน โดยเทน้ำกะทิใส่ลงอ่าง จุดเทียนอบขนมให้ไฟลามถึงตรงขี้ผึ้งแล้วดับเทียน ใส่เทียนลงในถ้วยเล็ก ๆ แล้วใส่ลงในอ่างน้ำกะทิ ปิดฝา อบน้ำกะทิไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจุดเทียนอบซ้ำอีก 1-2 ครั้ง ถ้ามีดอกกระดังงาก็เอาไปอบพร้อมเทียนเลย จากนั้นนำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่น คนผสมให้ละลาย รอจนเดือดแล้วยกลง เตรียมไว้
2. ทำตัวขนม โดยผสมแป้งกับน้ำใบเตย คนให้แป้งละลายเข้ากับน้ำใบเตย นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ใช้พายกวนตลอด ระวังอย่าให้ก้นหม้อไหม้ กวนจนขนมสุก ตัวแป้งจะเหนียวและใส พอแป้งสุกทั่วกัน เอาหม้อลงแช่ในอ่างน้ำแข็ง ใช้นิ้วเปียก ๆ หยิบขนมขนาดพอดีคำ แล้วหย่อนลงในน้ำกะทิที่เตรียมไว้ ตักขนมใส่ถ้วย ใส่น้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++
3. กล้วยไข่เชื่อม
หรือถ้ากลัวว่าฝีมือตัวเองยังไม่โปรพอที่จะทำขนมไทยแบบยาก ๆ ก็ลองมาทำ กล้วยไข่เชื่อม ราดน้ำกะทิ หวาน ๆ หอม ๆ เป็นเมนูง่าย ๆ แต่รับรองว่าถูกใจคุณแม่แน่ ๆ เป็นสูตรมาจากครัวบ้านพิม
หรือถ้ากลัวว่าฝีมือตัวเองยังไม่โปรพอที่จะทำขนมไทยแบบยาก ๆ ก็ลองมาทำ กล้วยไข่เชื่อม ราดน้ำกะทิ หวาน ๆ หอม ๆ เป็นเมนูง่าย ๆ แต่รับรองว่าถูกใจคุณแม่แน่ ๆ เป็นสูตรมาจากครัวบ้านพิม

•กล้วยไข่ห่าม ๆ 2 หวี
•น้ำตาลทรายขาว 450 กรัม
•น้ำสะอาด 400 กรัม
•หัวกะทิ 2 ถ้วย
•แป้งอเนกประสงค์ 1.5 ช้อนโต๊ะ
•เกลือป่น หยิบมือ
วิธีทำกล้วยไข่เชื่อม
1. ทำหัวกะทิสำหรับราดหน้า โดยใส่หัวกะทิลงในหม้อ ใส่เกลือป่นนิดหน่อย นำไปตั้งไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ จนกว่ากะทิจะข้น ยกลงจากเตา เตรียมไว้
2. ปอกเปลือกกล้วยไข่ออก ดึงเส้นดำออกให้หมด
ตัดหัวตัดท้ายเล็กน้อย ใส่ลงแช่ไว้ในน้ำที่ผสมเกลือ
3. ใส่น้ำตาลทรายกับน้ำลงหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ คนให้ละลายจนเป็นน้ำเชื่อม นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง เทกลับใส่หม้อ แล้วนำไปตั้งไฟเคี่ยวต่อจนน้ำเชื่อมข้นเหนียว จากนั้นใส่กล้วยไข่ลงไปเชื่อม ใช้ไฟปานกลางจนน้ำเชื่อมซึมเข้ากล้วย ตักใส่จาน ราดด้วยกะทิ พร้อมเสิร์ฟ
ส่วนผสม
ข้าวหมาก
•ข้าวสุก 3 ขีด
•แป้งข้าวหมาก 1 ลูก
•ข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้ว 3 ขีด
วิธีทำข้าวหมาก
1. นำข้าวเหนียวนึ่งสุกไปแช่น้ำ ใช้มือประกบถูเบา ๆ เพื่อล้างยางข้าวออก ล้างหลาย ๆ น้ำจนหมดยาง เทใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
3. ใส่น้ำตาลทรายกับน้ำลงหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ คนให้ละลายจนเป็นน้ำเชื่อม นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง เทกลับใส่หม้อ แล้วนำไปตั้งไฟเคี่ยวต่อจนน้ำเชื่อมข้นเหนียว จากนั้นใส่กล้วยไข่ลงไปเชื่อม ใช้ไฟปานกลางจนน้ำเชื่อมซึมเข้ากล้วย ตักใส่จาน ราดด้วยกะทิ พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++++++
4. ข้าวหมาก
ถ้าคุณแม่ท่านไหนชอบกินขนมไทยแบบกลิ่นแรง ๆ หน่อยอย่าง ข้าวหมาก ลูก ๆ ก็อย่ารอช้าที่จะลองทำ และสูตรที่เรานำมาฝากก็ง่ายมาก ๆ ด้วย พ่อครัวแม่ครัวมือใหม่ก็สามารถทำได้นะจ๊ะ เป็นสูตรง่าย ๆ มาจากคุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ถ้าคุณแม่ท่านไหนชอบกินขนมไทยแบบกลิ่นแรง ๆ หน่อยอย่าง ข้าวหมาก ลูก ๆ ก็อย่ารอช้าที่จะลองทำ และสูตรที่เรานำมาฝากก็ง่ายมาก ๆ ด้วย พ่อครัวแม่ครัวมือใหม่ก็สามารถทำได้นะจ๊ะ เป็นสูตรง่าย ๆ มาจากคุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

•ข้าวสุก 3 ขีด
•แป้งข้าวหมาก 1 ลูก
•ข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้ว 3 ขีด
วิธีทำข้าวหมาก
1. นำข้าวเหนียวนึ่งสุกไปแช่น้ำ ใช้มือประกบถูเบา ๆ เพื่อล้างยางข้าวออก ล้างหลาย ๆ น้ำจนหมดยาง เทใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
2. บี้ลูกแป้งข้าวหมากให้ละเอียด
นำไปคลุกกับข้าวเหนียวที่ล้างไว้ให้ทั่ว นำใส่กล่องที่มีฝาปิด
โดยไม่ต้องล็อกฝา วางไว้ที่อุณหภูมิห้องปกติ ประมาณ 3 วัน
จากนั้นนำเข้าแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ
ส่วนผสม
ข้าวเหนียวแก้ว
•ข้าวเหนียวดิบ 500 กรัม
•กะทิ (มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม) คั้นให้ได้น้ำกะทิ 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
•น้ำตาลทรายขาว 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
•เกลือป่น 1 ช้อนชา
•น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ
•น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/4 ถ้วย
•สีผสมอาหารสีเขียวเล็กน้อย
•งาขาวคั่ว 1/4 ถ้วย
วิธีทำ ข้าวเหนียวแก้ว
1. แช่ข้าวเหนียวทิ้งไว้ 1 คืน หรือไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง แล้วนำไปนึ่งให้สุก
2. ตักข้าวเหนียวใส่อ่างสำหรับผสม เติมกะทิลงคนผสมให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น น้ำปูนใส น้ำใบเตย และสีผสมอาหาร ลงในข้าวเหนียวที่ผสมกะทิแล้ว ผสมให้เข้ากัน
3. นำส่วนผสมข้าวเหนียวใส่ลงในกระทะ กวนจนเกือบแห้ง แล้วยกลง ตักใส่กระทง โรยงาคั่วเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++
5. ข้าวเหนียวแก้ว
อีกหนึ่งขนมไทยกลิ่นหอมชวนหม่ำกับ ข้าวเหนียวแก้ว สีเขียวสดใส กลิ่นหอม ๆ เคี้ยวเหนียวหนึบ ๆ ที่มีวิธีทำไม่ยากมากนัก ถ้าสนใจก็ลองดูนะคะ คิดว่าคุณแม่น่าจะปลื้ม ! สูตรจากคุณเนินน้ำ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
อีกหนึ่งขนมไทยกลิ่นหอมชวนหม่ำกับ ข้าวเหนียวแก้ว สีเขียวสดใส กลิ่นหอม ๆ เคี้ยวเหนียวหนึบ ๆ ที่มีวิธีทำไม่ยากมากนัก ถ้าสนใจก็ลองดูนะคะ คิดว่าคุณแม่น่าจะปลื้ม ! สูตรจากคุณเนินน้ำ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

•ข้าวเหนียวดิบ 500 กรัม
•กะทิ (มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม) คั้นให้ได้น้ำกะทิ 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
•น้ำตาลทรายขาว 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
•เกลือป่น 1 ช้อนชา
•น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ
•น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/4 ถ้วย
•สีผสมอาหารสีเขียวเล็กน้อย
•งาขาวคั่ว 1/4 ถ้วย
วิธีทำ ข้าวเหนียวแก้ว
1. แช่ข้าวเหนียวทิ้งไว้ 1 คืน หรือไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง แล้วนำไปนึ่งให้สุก
2. ตักข้าวเหนียวใส่อ่างสำหรับผสม เติมกะทิลงคนผสมให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น น้ำปูนใส น้ำใบเตย และสีผสมอาหาร ลงในข้าวเหนียวที่ผสมกะทิแล้ว ผสมให้เข้ากัน
3. นำส่วนผสมข้าวเหนียวใส่ลงในกระทะ กวนจนเกือบแห้ง แล้วยกลง ตักใส่กระทง โรยงาคั่วเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++++++++++
6.
ขนมเหนียวกับไอศกรีมกะทิ
ถ้าพูดถึงขนมไทยโบราณอย่าง ขนมเหนียว จะมีลูก ๆ คนไหนรู้จักกันบ้างไหมเนี่ย แต่ถ้าเป็นคุณแม่รุ่นเก๋าหน่อยน่าจะคุ้นเคย ยิ่งเดี๋ยวนี้หาซื้อมากินยากมาก ๆ กับเสน่ห์แป้งเหนียว ๆ เคี้ยวหนุบหนับ ราดน้ำตาลมะพร้าวเคี่ยวกลิ่นหอม ๆ กรุบกรอบไปกับข้าวตัง ในเมื่อหาซื้อกินยากนัก เราก็มีสูตรขนมเหนียวไอศกรีมกะทิ มาฝากจากนิตยสาร Foodstylist ลองมาดูกัน
ถ้าพูดถึงขนมไทยโบราณอย่าง ขนมเหนียว จะมีลูก ๆ คนไหนรู้จักกันบ้างไหมเนี่ย แต่ถ้าเป็นคุณแม่รุ่นเก๋าหน่อยน่าจะคุ้นเคย ยิ่งเดี๋ยวนี้หาซื้อมากินยากมาก ๆ กับเสน่ห์แป้งเหนียว ๆ เคี้ยวหนุบหนับ ราดน้ำตาลมะพร้าวเคี่ยวกลิ่นหอม ๆ กรุบกรอบไปกับข้าวตัง ในเมื่อหาซื้อกินยากนัก เราก็มีสูตรขนมเหนียวไอศกรีมกะทิ มาฝากจากนิตยสาร Foodstylist ลองมาดูกัน

ส่วนผสม
ขนมเหนียว
•แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วยตวง
•แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วยตวง
•มะพร้าวขูด 1 1/2 ถ้วยตวง
•สีผสมอาหารตามชอบ
•ข้าวตัง คาราเมล และไอศกรีมกะทิ สำหรับเสิร์ฟคู่
วิธีทำขนมเหนียว
1. นำมะพร้าวขูดคลุกเกลือและนำไปนึ่งประมาณ 15 นาที
2. ผสมแป้งข้าวเหนียว และแป้งข้าวเจ้า นวดให้เข้ากันและไม่ติดมือ (แบ่งสรรปันส่วนและสีสันตามที่คุณชอบ)
3. จากนั้นนำมาปั้น แล้วนำลงต้มในน้ำเดือด พอแป้งลอยขึ้นตักแช่น้ำเย็น แล้วนำไปคลุกมะพร้าวที่นึ่งไว้ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมกะทิ ข้าวตัง และคาราเมล
ส่วนผสม
ถั่วแปบ
•ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือก 500 กรัม
•มะพร้าวขูดฝอยนึ่งสุก
•แป้งข้าวเหนียว 500 กรัม
•น้ำเดือดสำหรับผสมแป้ง
•สีผสมอาหารตามชอบ 2-3 สี
•งาขาวและงาดำคั่วพอหอม
•น้ำตาลทรายละเอียด (น้ำตาลทรายเบเกอรี่)
•เกลือป่นเล็กน้อย
วิธีทำถั่วแปบ
1. ล้างถั่วเขียวให้สะอาด แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 5-6 ชั่วโมง จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก พักทิ้งไว้จนเย็น
2. ผสมถั่วเขียวนึ่งสุกกับมะพร้าวขูดนึ่งสุก ใส่เกลือป่นลงไปเล็กน้อย เคล้าผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
3. ผสมงาขาวและงาดำคั่วกับน้ำตาลทรายและเกลือป่นให้เข้ากัน เตรียมไว้
4. แบ่งแป้งออกเป็นส่วน ๆ ตามจำนวนสี แล้วใส่สีผสมอาหารลงในแป้ง จากนั้นเทน้ำเดือดใส่ คนผสมเรื่อย ๆ จนแป้งเริ่มอุ่น จากนั้นนวดแป้งให้เข้ากัน ปั้นแป้งเป็นรูปทรงรี คลุมด้วยผ้าชื้น เตรียมไว้
5. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่แป้งลงต้มจนสุกและลอยขึ้น ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ
6. คลุกแป้งนึ่งสุกกับส่วนผสมมะพร้าว จัดใส่จาน เสิร์ฟคู่กับส่วนผสมงาและน้ำตาลทราย
•แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วยตวง
•แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วยตวง
•มะพร้าวขูด 1 1/2 ถ้วยตวง
•สีผสมอาหารตามชอบ
•ข้าวตัง คาราเมล และไอศกรีมกะทิ สำหรับเสิร์ฟคู่
วิธีทำขนมเหนียว
1. นำมะพร้าวขูดคลุกเกลือและนำไปนึ่งประมาณ 15 นาที
2. ผสมแป้งข้าวเหนียว และแป้งข้าวเจ้า นวดให้เข้ากันและไม่ติดมือ (แบ่งสรรปันส่วนและสีสันตามที่คุณชอบ)
3. จากนั้นนำมาปั้น แล้วนำลงต้มในน้ำเดือด พอแป้งลอยขึ้นตักแช่น้ำเย็น แล้วนำไปคลุกมะพร้าวที่นึ่งไว้ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมกะทิ ข้าวตัง และคาราเมล
+++++++++++++++++
7. ถั่วแปบ
ถ้าคุณแม่ท่านไหนชอบกินขนมไทยอย่าง ถั่วแปบ เนื้อเหนียวนุ่มเคี้ยวเพลิน ๆ ไปกับมะพร้าวและถั่วเขียวนึ่ง จิ้มกับน้ำตาลและงาคั่ว ลูก ๆ คงจะรอช้าไม่ได้แล้วล่ะค่ะ มาลงมือทำกันให้ไวเลย
ถ้าคุณแม่ท่านไหนชอบกินขนมไทยอย่าง ถั่วแปบ เนื้อเหนียวนุ่มเคี้ยวเพลิน ๆ ไปกับมะพร้าวและถั่วเขียวนึ่ง จิ้มกับน้ำตาลและงาคั่ว ลูก ๆ คงจะรอช้าไม่ได้แล้วล่ะค่ะ มาลงมือทำกันให้ไวเลย

•ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือก 500 กรัม
•มะพร้าวขูดฝอยนึ่งสุก
•แป้งข้าวเหนียว 500 กรัม
•น้ำเดือดสำหรับผสมแป้ง
•สีผสมอาหารตามชอบ 2-3 สี
•งาขาวและงาดำคั่วพอหอม
•น้ำตาลทรายละเอียด (น้ำตาลทรายเบเกอรี่)
•เกลือป่นเล็กน้อย
วิธีทำถั่วแปบ
1. ล้างถั่วเขียวให้สะอาด แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 5-6 ชั่วโมง จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก พักทิ้งไว้จนเย็น
2. ผสมถั่วเขียวนึ่งสุกกับมะพร้าวขูดนึ่งสุก ใส่เกลือป่นลงไปเล็กน้อย เคล้าผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
3. ผสมงาขาวและงาดำคั่วกับน้ำตาลทรายและเกลือป่นให้เข้ากัน เตรียมไว้
4. แบ่งแป้งออกเป็นส่วน ๆ ตามจำนวนสี แล้วใส่สีผสมอาหารลงในแป้ง จากนั้นเทน้ำเดือดใส่ คนผสมเรื่อย ๆ จนแป้งเริ่มอุ่น จากนั้นนวดแป้งให้เข้ากัน ปั้นแป้งเป็นรูปทรงรี คลุมด้วยผ้าชื้น เตรียมไว้
5. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่แป้งลงต้มจนสุกและลอยขึ้น ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ
6. คลุกแป้งนึ่งสุกกับส่วนผสมมะพร้าว จัดใส่จาน เสิร์ฟคู่กับส่วนผสมงาและน้ำตาลทราย
+++++++++++++++++++
8. บัวลอยไข่หวาน
ถ้าพูดถึงขนมไทย จะลืมขนมถ้วยนี้ไปไม่ได้เลยกับ บัวลอยไข่หวาน ขนมไทยในดวงใจสุดคลาสสิก หอมกลิ่นกะทิ เนื้อเหนียวนุ่ม คุณแม่ที่ชอบกินขนมจำพวกน้ำกะทิคงจะปลื้มปริ่ม แถมทำครั้งเดียวได้กินทั้งครอบครัวเลยด้วย
ถ้าพูดถึงขนมไทย จะลืมขนมถ้วยนี้ไปไม่ได้เลยกับ บัวลอยไข่หวาน ขนมไทยในดวงใจสุดคลาสสิก หอมกลิ่นกะทิ เนื้อเหนียวนุ่ม คุณแม่ที่ชอบกินขนมจำพวกน้ำกะทิคงจะปลื้มปริ่ม แถมทำครั้งเดียวได้กินทั้งครอบครัวเลยด้วย

ส่วนผสม ขนมบัวลอย
•แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
•น้ำ 1/4 ถ้วย
•เผือกนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารสีม่วง)
•ฟักทองนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารเหลือง)
•น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น (หรือสีผสมอาหารสีเขียว)
•น้ำกะทิ 1 ถ้วย
•น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
•เกลือป่น 1 ช้อนชา
•ไข่ไก่
วิธีทำขนมบัวลอย
1. แบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 นวดผสมแป้งกับน้ำและเผือกนึ่งสุก ส่วนที่ 2 นวดแป้งกับน้ำและฟักทองนึ่งสุก ส่วนที่ 3 นวดแป้งกับน้ำใบเตย นวดผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำไปคลุกแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ เตรียมไว้
2. ใส่น้ำกะทิลงในหม้อ เติมน้ำตาลทรายและเกลือป่น คนผสมจนละลาย
นำขึ้นตั้งไฟ พอเดือด รีบปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเตรียมไว้
3. ต้มน้ำในหม้อจนเดือด นำบัวลอยลงต้มทีละสีจนลอยขึ้นมา จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ใส่ลงในถ้วย ตักกะทิที่เตรียมไว้ใส่ลงไป
4. ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย ค่อย ๆ เทลงในหม้อน้ำกะทิ รอจนไข่สุกตามชอบ จากนั้นตักขึ้นใส่ลงในถ้วยบัวลอย พร้อมเสิร์ฟ
ส่วนผสม
ข้าวแต๋น
•ข้าวเหนียวนึ่งสุก
•น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
•น้ำ 4 ช้อนโต๊ะ
•น้ำมันพืช (สำหรับทอดขนม)
•พิมพ์ตัดคุกกี้รูปวงกลม
3. ต้มน้ำในหม้อจนเดือด นำบัวลอยลงต้มทีละสีจนลอยขึ้นมา จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ใส่ลงในถ้วย ตักกะทิที่เตรียมไว้ใส่ลงไป
4. ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย ค่อย ๆ เทลงในหม้อน้ำกะทิ รอจนไข่สุกตามชอบ จากนั้นตักขึ้นใส่ลงในถ้วยบัวลอย พร้อมเสิร์ฟ
+++++++++++++++++
9. ขนมนางเล็ด
ข้าวแต๋น
อีกหนึ่งเมนูขนมไทยโบราณทำง่าย ๆ สำหรับมอบเป็นของขวัญให้คุณแม่ ใช้ส่วนผสมไม่กี่อย่างเอง วิธีทำก็ง่ายมาก ๆ ตามมาดูกันจ้า
อีกหนึ่งเมนูขนมไทยโบราณทำง่าย ๆ สำหรับมอบเป็นของขวัญให้คุณแม่ ใช้ส่วนผสมไม่กี่อย่างเอง วิธีทำก็ง่ายมาก ๆ ตามมาดูกันจ้า

•ข้าวเหนียวนึ่งสุก
•น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
•น้ำ 4 ช้อนโต๊ะ
•น้ำมันพืช (สำหรับทอดขนม)
•พิมพ์ตัดคุกกี้รูปวงกลม
วิธีทำขนมข้าวแต๋น
1. อุ่นข้าวเหนียวให้ร้อน ตักข้าวเหนียวใส่ลงในพิมพ์วงกลม กดแผ่แป้งเป็นแผ่นบาง ๆ จนเต็มพิมพ์ เคาะออกจากพิมพ์ นำไปตากแดดจนแห้ง เตรียมไว้
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนร้อน ใส่ข้าวเหนียวที่ตากไว้ลงทอดจนพองเต็มที่ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้
3. ใส่น้ำตาลปี๊บและน้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนน้ำตาลละลาย ค่อย ๆ ตักหยอดเป็นเส้น ๆ ลงบนขนม พักทิ้งไว้สักครู่จนน้ำตาลแข็งตัว จัดใส่จานให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
ถ้าลองได้สูตรขนมไทยโบราณน่ากิน ๆ ทั้ง 9 สูตรที่เรานำมาฝากแบบนี้ไว้ในมือแล้ว คุณลูก ๆ ก็รีบเตรียมตัวไปหาซื้อวัตถุดิบ เตรียมเข้าครัวไปทำขนมสุดเซอร์ไพรส์เพื่อมอบเป็นของขวัญวันแม่กันนะคะ
คุณกำลังดู: ขนมวันแม่ บอกรักแม่ด้วย 9 สูตรขนมไทยโบราณแสนอร่อย
หมวดหมู่: ขนมไทย
แชร์ข่าว